รัฐบาลไทย หวย สลากกินแบ่งรัฐบาล นั้นมีประวัติความเป็นมาอย่างไร?

เมื่อถึงทุก ๆ วันที่ 1 และ 16 ของทุก ๆ เดือนโดยประมาณ ซึ่งเป็นวันแห่งความหวัง จากเลขเด็ดไปสู่เส้นทางรวยของคอหวยทั้งหลาย หรือการลงทุนผ่าน รัฐบาลไทย หวย สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ต่างคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอลุ้นเลขรางวัลกันอย่างคึกคัก ว่าเลขเด็ด เลขดัง เลขเด่น เลขสำนักดังที่ได้ซื้อเอาไว้นั้นจะเข้าเป้าหรือไม่ จะพารอดหรือพาร่วงในแต่ละงวด ซึ่งก็เป็นในเรื่องของความชื่นชอบของแต่ละคนกันไป และในวันนี้เราจะมาพาทุกท่านกลับไปค้นหาหน้าประวัติศาสตร์ว่า หวย แล้วจริง ๆ มาจากอะไร เริ่มต้นจากตรงไหนมาจนปัจจุบันนี้

รัฐบาลไทย หวย หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลไทย คืออะไร

อย่างที่ผ่านมาในอดีตมักจะรวมตัวกันหน้าจอโทรทัศน์ที่บ้านใดบ้านหนึ่ง หรือไม่ก็ลุ้นกันผ่านเสียงวิทยุ แม้ปัจจุบันรูปแบบจะเปลี่ยนแปลงไปสู่หน้าโทรศัพท์มือถือ หรือ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่การลุ้นหวยก็ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

โดยเอาจริง ๆ แล้ว “หวย” มีประวัติเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน โดยในข้อมูลจากหอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้อธิบายไว้ว่า จุดเริ่มต้นของการเล่นหวยนั้น เกิดขึ้นเมื่อราว ๆ 1,300 ปีก่อน สำหรับในประเทศไทยน้้น มีหลักฐานว่า  “หวย” น่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ ราว ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 2 จากการที่คนจีนเดินเข้ามาในประเทศไทย และได้นำหวยจับยี่กี เข้ามาเล่นในหมู่คนจีนด้วยกัน หลังจากเจ้ามือได้กำไรจากการเล่นหวยแล้ว ก็จะนำเงินที่ได้มานั้นบริจาคให้กับวังหลวง จนเกิดตำแหน่งขุนบาลหวยขึ้น หลังจากนั้นในปี 2517 ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 จึงถือกำเนิดล็อตเตอรี่ไทยเป็นฉบับแรก

ประวัติและความเป็นมาของ ล็อตเตอรี่

ในวันนี้เราจะพาทุก่านไปไล่เรียงไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นกำเนิดของสลากกินแบ่งรัฐบาลในประเทศไทย ที่ทำให้คนไทยน้้นได้ลุ้นรางวัลกันมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการส่งรายได้เข้าให้กับรัฐมากที่สุด โดยปี 2562 ส่งรายได้เข้ารัฐกว่า 41,916 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 9 เดือน ของปีงบ 2563 นำส่งรายได้ไปแล้วมากกว่า 34,304 ล้านบาท โดยวิวัฒนาการไทม์ไลน์ของสลากกินแบ่งรัฐสำคัญๆ มีดังนี้

หากย้อนกลับไปราว ๆ ช่วง 147 ปีก่อน หรือในปี พ.ศ. 2517 สมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ทางกรมทหารมหาดเล็กทำการออก “ลอตเตอรี่” เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เนื่องจากในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อของนายเฮนรี่ อาล บาสเตอร์ หรือครูอาลบาสเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มาเป็นผู้อำนวยการในการออกรางวัลลอตเตอรี่ โดยได้มีการศึกษาและทำตามรูปแบบของยุโรป

ลอตเตอรี่ฉบับแรก เริ่มพิมพ์เมื่อไหร่

ลอตเตอรี่เริ่มพิมพ์ครั้งแรกที่ 20,000 ฉบับ ตกราคาฉบับละ 1 ตำลึง หรือเท่ากับ 4 บาท โดยรางวัลที่ 1 จะได้รับเงินรางวัล 100 ชั่ง หากเทียบกับเงินในปัจจุบัน จะเท่ากับราว ๆ 8,000 บาท ส่วนรางวัลที่ 2 ได้รับ 50 ชั่ง หรือราว ๆ 4,000 บาท และรางวัลที่ 3 จะได้รับ 25 ชั่ง หรือราว ๆ 2,000 บาท นั่นเอง ซึ่งลอตเตอรี่ในยุคสมัยนั้นยังมีตัวเลขเพียง 4 หลักเท่านั้น ซึ่งขณะนั้นเลขรางวัลที่ออกเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เกิดขึ้นในรัชกาลที่ 5 คือหมายเลข 1672 ส่วนรางวัลที่ 2 คือหมายเลข 1425 และรางวัลที่ 3 คือหมายเลข 3662

ส่วนการออกลอตเตอรี่ครั้งที่ 2 นั้น ได้ล่วงเลยมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2460 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ท่านทรงได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มีการออกสลากลอตเตอรี่ของสภารักชาติ ประเทศอังกฤษ จำหน่ายในราคาใบละ 5 บาท โดยมีเงื่อนไขการจ่ายเงินรางวัล เป็นสัญญาเงินกู้ของคณะกู้เงินในการสงคราม โดยจะมีสภารักชาติแห่งประเทศอังกฤษ สาขากรุงเทพ เป็นผู้ลงนาม และได้มีประเทศสหพันธรัฐมลายู เป็นผู้ค้ำประกัน

ส่วนการออกลอตเตอรี่อีกครั้งหนึ่งที่เริ่มในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นการออกลักษณะพิเศษ คือ ลอตเตอรี่ เสือป่าล้านบาท เพื่อเป็นการหารายได้ซื้อปืนพระราชทานให้กองเสือป่า และรัชกาลที่ 6 พระราชทานปืนรุ่นนี้ให้ชื่อว่า ปืนพระราม 6 ซึ่งมีข้อมูลของหอจดหมายเหตุระบุว่า การออกลอตเตอรี่ได้ออกครั้งนี้และได้หายไป เนื่องจากเกิดภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและฝืดเคือง

ลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม คืออะไร

หลังจากนั้นผ่านมาประมาณ 10 ปี ราว ๆ ปี พ.ศ. 2476 รัฐบาลในขณะนั้นได้มีนโยบายที่จะลดการจัดเก็บเงินรัชชูปการ หรือก็คือเงินที่เคยเรียกเก็บจากชายไทยที่ไม่ต้องรับราชการทหาร ทำให้รัฐบาลต้องขาดรายได้ส่วนนี้ไป รวมถึงเพื่อนำรายได้ไปใช้จ่ายในด้านการศึกษาและพยาบาล จึงทำให้เกิดโครงการออกลอตเตอรี่รัฐบาลขึ้น เรียกว่า “ลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม” โดยครั้งนั้นให้กรมสรรพกรเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งมีการพิมพ์ออกจำหน่ายทั้งหมดรวม 1 ล้านฉบับ ราคมฉบับละ 1 บาท โดยใน 1 ปี จะมีการออกรางวัล 4 งวด

ขณะเดียวกันในปีต่อมา พ.ศ. 2477 ทางคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้ทางกระทรวงมหาดไทยออก “สลากกินบำรุงเทศบาล” โดยที่มีวัตถุประสงค์คือเพื่อนำเงินไปบำรุงกิจการทางเทศบาล ทั้งนี้กำหนดว่าหากเดือนไหนที่มีการออกสลากให้งดจำหน่ายสลากไปก่อน ได้เริ่มจำหน่ายสลากงวดแรกในเดือน พ.ย.2478 และเริ่มการออกสลากในเดือน เม.ย พ.ศ. .2479 รวมทั้งหมด 500,000 ใบ ราคาฉบับละ 1 บาท ก็มีการออกสลากมาเรื่อยๆ ด้านกระทรวงมหาดไทยและกรมสรรพากร

การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เริ่มแบบจริงจังเมื่อไหร่

ส่วนยุคสมัยที่มีการดำเนินการเรื่องของการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐอย่างจริงจัง คือ ปี พ.ศ. 2482 เป็นช่วงของรัฐบาลพันเอกหลวงพิบูลสงคราม ได้ทำการโอนย้ายกิจการสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากบำรุงเทศบาล ให้มาอยู่ในสังกัดกระทรวงการคลัง และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งประธานกรรมการคนแรกนั้นก็คือ พระยาพรหมทัตศรีพิลาส หลังจากนั้นปี พ.ศ. 2494 ได้ตั้งกองการพิมพ์เพื่อพิมพ์สลากเอง หลังจากนั้นก็ได้มีการออกสลากเรื่อยมา และมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นไป เช่น 2 บาท 3 บาท 4 บาท 6 บาท 10 บาท 20 บาท เป็นต้น

สลากกินแบ่งรัฐบาลปรับมาใช้เลข 6 หลักในการออกรางวัลปีไหน

โดยที่ผ่านมานั้นสลากกินแบ่งรัฐบาลการออกรางวัลโดยใช้ ตัวเลข 7 หลัก แต่เมื่อปี พ.ศ. 2530 ได้ทำการปรับตัวเลขรางวัลลงมาเหลือ 6 หลัก และได้ปรับราคาจำหน่ายจากฉบับละ 20 บาท มาเป็นฉบับละ 40 บาท รวมถึงการออกสลากบำรุงการกุศลให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ประชุมและลงอนุมัติด้วย

จวบมาจนกระทั่งปี พ.ศ. 2546 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้มีการออกรางวัลรูปแบบเลขท้าย 3 ตัว และเลข 2 ตัว เพื่อมาแก้ปัญหาหวยใต้ดิน รวมถึงปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เกินราคา โดยเริ่มมีการจำหน่ายงวดแรกตั้งแต่ 1 สิงหาคม – 16 พฤศจิกายน พ.ศ..2549 รวมทั้งหมด 80 งวด

อัตราจ่ายของสลากกินแบ่งรัฐบาลในปัจจุบัน

และล่าสุดนั้นปี พ.ศ. 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ..2560 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ทำการปรับปรุงและขนาดของสลากฯ โดยจากเดิมเป็นจำหน่ายเป็นคู่ ราคาอยู่ที่คู่ละ 80 บาท หรือราคมฉบับละ 40 บาท ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นฉบับเดียวจำหน่ายในราคา 80 บาท ซึ่งเงินรางวัลขณะนี้คือ

• รางวัลที่ 1 : มีจำนวน 1 รางวัล เงินรางวัล 6,000,000 บาท
• รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 : มีจำนวน 2 รางวัล เงินรางวัลละ 100,000 บาท
• รางวัลที่ 2 : มีจำนวน 5 รางวัล เงินรางวัลละ 200,000 บาท
• รางวัลที่ 3 : มีจำนวน 10 รางวัล เงินรางวัลละ 80,000 บาท
• รางวัลที่ 4 : มีจำนวน 50 รางวัล เงินรางวัลละ 40,000 บาท
• รางวัลที่ 5 : มีจำนวน 100 รางวัล เงินรางวัลละ รางวัล 20,000 บาท
• รางวัลเลขหน้า 3 ตัว : มีจำนวน 2 รางวัล เงินรางวัลละ 4,000 บาท
• รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : มีจำนวน 2 รางวัล เงินรางวัลละ 4,000 บาท
• รางวัลเลขท้าย 2 ตัว : มีจำนวน 1 รางวัล เงินรางวัลละ 2,000 บาท

และทั้งหมดที่เราได้กล่าวมานั้นคือประวัติของ รัฐบาลไทย หวย สลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีมาอย่างยาวนาน เป็น 100 ปี ที่ผู้คนในปัจจุบันนั้นอาจจะยังไม่รู้ เพราะทุกวันนี้ หวย นั้นไม่ได้มีแค่เพียงสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกต่อไป ยังมีพวก หวยต่างประเทศ หรือ หวยหุ้นวีไอพี ที่ได้มีการเปิดรับแทงอยู่ตามเว็บหวยออนไลน์ในตอนนี้ เพียงแค่การแทงหวยเหล่านี้ยังไม่มีกฏหมายเข้ามารับรองให้เกิดความถูกต้อง แต่ก็เป็นที่นิยมของคอหวยชาวไทยเป็นอย่างมากครับ สำหรับในวันนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อน กลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ